ภาษีเสากระจายสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ในคำพิพากษาของศาลยุติธรรมสหภาพยุโรป โดยวิเคราะห์ว่าภาษีที่จ่ายโดยบริษัทโทรศัพท์เคลื่อนที่สำหรับเสาชอบด้วยกฎหมาย ศาลยุติธรรมสหภาพยุโรปได้ประกาศคำพิพากษาในวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 2005 ในคดีร่วมที่ฟ้องโดย Belgacom Mobile และ Mobistar ที่ฟ้องว่าภาษีประจำปีของเสาอากาศวิทยุภายนอก ในเดือนตุลาคม 1997 conseil communal de Schaerbeek ในเบลเยี่ยม ได้กำหนดภาษีประจำปีสำหรับเสาอากาศภายนอก เช่น จานดาวเทียมและเสารับส่ง GSM (GSM relay antennae) กฎคล้ายกันของ conseil communal de Fléron ออกตามมาในเดือนมกราคม 1998 โดยออกกฎเก็บภาษีประจำปีกับ transmission pylons, masts and antennae for GSM ทั้งสองกฎถูกฟ้องไปยังศาลปกครองของเบลเยี่ยม (Conseil d’État of Belgium) โดยผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อให้ยกเลิกกฎดังกล่าว การอ้างอิงไปยังการวินิจฉัยเบื้องต้นของศาลยุติธรรมสหภาพยุโรป
หน่วยงานของรัฐในออสเตรียได้ประกาศกฎหมายใหม่เกี่ยวกับภาษีโครงสร้างพื้นฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ในวันที่ 31 สิงหาคม 2005 ตามกฎหมายใหม่นี้มีการจัดเก็บภาษีมากกว่า 21,000 เหรียญยูโรต่อหน่วยการส่งโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Sendeanlage) ในวันที่ 1 มกราคม 2006 ซึ่งประมาณ 10 เท่าของอัตราภาษีในเบลเยี่ยม มลรัฐอื่นในออสเตรียและประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปก็กำลังจะเดินตาม ผู้ประกอบการโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของออสเตรียมองว่ากฎหมายดังกล่าวเป็นภาระภาษีเป็นล้านและไม่สามารถคาดการณ์ได้ก่อนและเตรียมฟ้องร้องทั้งในระดับประเทศและสหภาพยุโรป คำพิพากษาของศาลยุติธรรมสหภาพยุโรปในคดี Belgacom and Mobistar ในวันที่ 8 กันยายน (C-544/03 and C-545/03) โดยวินิจฉัยว่าการวินิจฉัยเบื้องต้นของศาลปกครองตามมาตรา 234 ของอนุสัญญาณยุโรป ประเด็นแรกศาลต้องตอบว่ามาตรา 59 ของสนธิสัญญาในเรื่องเสรีภาพในการให้บริการจะป้องกันการออกกฎเก็บภาษีโครงสร้างพื้นฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือไม่ ศาลตัดสินว่ากรณีนี้ไม่เป็นคดีหากภาษี้บังคับโดยไม่เลือกปฏิบัติต่อสัญชาตผู้ให้บริการและต่อประเทศสมาชิกและหากผลกระทบทางภาษีต่อการให้บริการภายในประเทศสามชิกหนึ่งในลักษณะเดียวกันกับการให้บริการระหว่างประเทศสมาชิก ประเด็นที่สองคือผลประโยชน์เฉพาะของบทบัญญัติภาษีเสาอากาศต่ำประกันว่ามาตรการภาษีปฏิบัติตามกรอบการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม โดยเฉพาะมาตรา 3(c) ของข้อกำหนดคณะกรรมาธิการ 90/388/EEC (Commission Directive 90/388/EEC) ที่กำหนดว่าข้อจำกัดทั้งหมดสำหรับผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่เกี่ยวกับการติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานควรยกเลิก ศาลวินิจฉัยว่าภาษีใช้บังคับกักับบริษัทบริการโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ เว้นต่หากมาตรการนิยมทั้งทางตรงหรือทางอ้อม ผู้ประกอบการมีสิทธิเด็ดขาดหรือสิทธิพิเศษในการลดทอนผู้ประกอบการรายใหม่และมีผลกระทบต่อการแข่งขัน อย่างไรก็ตามศาลตดสินว่าให้ศาลของประเทศตัดสินว่าเงื่อนไขเหล่านี้เป็นคดีหรือไม่
ภาษีเสาอากาศในออสเตรียตอนใต้
ภาษีเสาอากาศชองออสเตรียตอนใต้บังคับใช้กับผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยจัดเก็บประมาณ €7,000 ถึง €21,000 ต่อปี ขึ้นอยู่กับจำนวนเสาอากาศที่แบ่งให้ใช้ ภาษีนี้ใช้กับเสาอากาศในสถานที่โล่ง และชิ้นส่วนของอุปกรณ์ที่ยื่นสูงขึ้นไปบนอาคารหรือปล่องไฟ วัตถุประสงค์ของกฎหมายคือจำกัดการเติบโดยไม่มีการควบคุมของเสาอากาศที่ทำลายสภาพภูมิประเทศ ภาษีจะก่อให้เกิดแรงจูงใจแก่ผู้ประกอบการในการแบ่งเสาอากาศและโครงข่ายโทรคมนาคมเคลื่อนที่มากกว่าการขยายโครงข่ายที่คู่ขนาน ภาษีไม่ใช้บังคับกับเสาไฟฟ้า กังหันลม โครงสร้างพื้นฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ตั้งอยู่ในที่ดินรัฐ และเสาอากาศที่ส่งสัญญาณน้อยกว่า 4W ผู้ประกอบการมีโอกาสเล็กน้อยในการลดจำนวนเสาอากาศที่ทำตามเงื่อนไขตามที่กฎหมายบังคับ ปัญหาของภาษีนี้คืออะไร ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ลงทุนเป็นพันล้านในคลื่นความถี่ใหม่และต้องปฏิบัติตามพันธะการให้บริการอย่างทั่วถึง นักลงทุนต้องมีระดับความไว้วางใจในการกำกับดูแลที่ไม้ใจได้มีความแน่นอนและชัดเจน ภาษีดังกล่าวก่อให้เกิดภารอย่างมาก ผลกระทบสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ที่กำลังมีลูกค้าเพิ่มขึ้น
การกระทำทางกฎหมายต่อมาตรการดังกล่าว
บทบัญญัติที่เกี่ยวข้องของมาตรา 3 ของข้อกำหนด 90/388/EEC ที่แทนโดยมาตรา 2 วรรค 3 ของข้อกำหนดการสื่อสาร 2002/77/EC วันที่ 16 กันยายน 2002 เรื่องการแข่งขันในตลาดโครงข่ายและบริการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ มาตรา 2 วรรค 3 ระบุว่าประเทศสมาชิกต้องประกันว่าไม่มีการกำหนดข้อจำกัดต่อโครงข่ายและบริการ สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นมาตรการที่คล้ายคลึงกันกับภาษีที่จัดเก็บในกรณี the Belgacom and Mobistar อาจฝ่าฝืนกฎหมายสหภาพยุโรปในปัจจุบัน คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปกำลังพิจารณากระบวนการละเมิดต่อออสเตรียตามมาตรา 226 ของสนธิสัญญา
ผลกระทบการขยายโครงข่ายและพัฒนาการทางเทคโนโลยี
วัตถุประสงค์ของรัฐสภาออสเตรียตอนใต้ในการจำกัดการเติบโตของเสาอากาศในรูปของกฎหมายเกี่ยวกับการขยายโครงข่ายโทรคมนาคมและฝ่าฝืนความสามารถของรัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรียในการจัดการกับปัญหาโทรคมนาคม รัฐบาลกลางออสเตรียตัดสินใจอนุญาตให้แบ่งใช้โครงสร้างพื้นฐานแทนจะบังคับเพื่อหลีกเลี่ยงหากชะลอหรือจำกัดทางเทคโนโลยีหรือเชิงพาณิชย์ในการแก้ไขปัญหา
นอกจากนี้มาตรการที่เป็นภาระและไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ที่กำหนดหลังจากมีการลงทุนจำนวนมหาศาลมีแนวโน้มจะสร้างความไม่มั่นใจในการลงทุนในหสภาพยุโรป แรงจูงใจในการลดจำนวนภาษีอาจนำไปสุ่การลดระดับการครอบคลุมในเขตชนบทเพราะการครอบคลุมจำนวนประชาชนที่มากที่สุดและจำนวนรายได้ต่อเสาอากาศเป็นการบรรลุที่ดีที่สุดในเขตเมือง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีการสื่อสารโทรศัพท์เคลื่อนที่ ขอบเขตของการขยายการครอบคลุมการใช้ช่วงสัญญาณต่ำกว่า ดังนั้น ในระยะยาวภาษีที่เป็นภาระโครงสร้างโทรคมนาคมอาจส่งผลต่อเขตชนบทที่ครอบคลุมโดยเทคโนโลยีความถี่ต่ำกว่าและเผชิญกับปัญหาเลวร้ายของช่องว่างดิจิทัลเพราะภาษีไม่มีความสมดุล
หน่วยงานของรัฐในออสเตรียได้ประกาศกฎหมายใหม่เกี่ยวกับภาษีโครงสร้างพื้นฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ในวันที่ 31 สิงหาคม 2005 ตามกฎหมายใหม่นี้มีการจัดเก็บภาษีมากกว่า 21,000 เหรียญยูโรต่อหน่วยการส่งโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Sendeanlage) ในวันที่ 1 มกราคม 2006 ซึ่งประมาณ 10 เท่าของอัตราภาษีในเบลเยี่ยม มลรัฐอื่นในออสเตรียและประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปก็กำลังจะเดินตาม ผู้ประกอบการโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของออสเตรียมองว่ากฎหมายดังกล่าวเป็นภาระภาษีเป็นล้านและไม่สามารถคาดการณ์ได้ก่อนและเตรียมฟ้องร้องทั้งในระดับประเทศและสหภาพยุโรป คำพิพากษาของศาลยุติธรรมสหภาพยุโรปในคดี Belgacom and Mobistar ในวันที่ 8 กันยายน (C-544/03 and C-545/03) โดยวินิจฉัยว่าการวินิจฉัยเบื้องต้นของศาลปกครองตามมาตรา 234 ของอนุสัญญาณยุโรป ประเด็นแรกศาลต้องตอบว่ามาตรา 59 ของสนธิสัญญาในเรื่องเสรีภาพในการให้บริการจะป้องกันการออกกฎเก็บภาษีโครงสร้างพื้นฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือไม่ ศาลตัดสินว่ากรณีนี้ไม่เป็นคดีหากภาษี้บังคับโดยไม่เลือกปฏิบัติต่อสัญชาตผู้ให้บริการและต่อประเทศสมาชิกและหากผลกระทบทางภาษีต่อการให้บริการภายในประเทศสามชิกหนึ่งในลักษณะเดียวกันกับการให้บริการระหว่างประเทศสมาชิก ประเด็นที่สองคือผลประโยชน์เฉพาะของบทบัญญัติภาษีเสาอากาศต่ำประกันว่ามาตรการภาษีปฏิบัติตามกรอบการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม โดยเฉพาะมาตรา 3(c) ของข้อกำหนดคณะกรรมาธิการ 90/388/EEC (Commission Directive 90/388/EEC) ที่กำหนดว่าข้อจำกัดทั้งหมดสำหรับผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่เกี่ยวกับการติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานควรยกเลิก ศาลวินิจฉัยว่าภาษีใช้บังคับกักับบริษัทบริการโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ เว้นต่หากมาตรการนิยมทั้งทางตรงหรือทางอ้อม ผู้ประกอบการมีสิทธิเด็ดขาดหรือสิทธิพิเศษในการลดทอนผู้ประกอบการรายใหม่และมีผลกระทบต่อการแข่งขัน อย่างไรก็ตามศาลตดสินว่าให้ศาลของประเทศตัดสินว่าเงื่อนไขเหล่านี้เป็นคดีหรือไม่
ภาษีเสาอากาศในออสเตรียตอนใต้
ภาษีเสาอากาศชองออสเตรียตอนใต้บังคับใช้กับผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยจัดเก็บประมาณ €7,000 ถึง €21,000 ต่อปี ขึ้นอยู่กับจำนวนเสาอากาศที่แบ่งให้ใช้ ภาษีนี้ใช้กับเสาอากาศในสถานที่โล่ง และชิ้นส่วนของอุปกรณ์ที่ยื่นสูงขึ้นไปบนอาคารหรือปล่องไฟ วัตถุประสงค์ของกฎหมายคือจำกัดการเติบโดยไม่มีการควบคุมของเสาอากาศที่ทำลายสภาพภูมิประเทศ ภาษีจะก่อให้เกิดแรงจูงใจแก่ผู้ประกอบการในการแบ่งเสาอากาศและโครงข่ายโทรคมนาคมเคลื่อนที่มากกว่าการขยายโครงข่ายที่คู่ขนาน ภาษีไม่ใช้บังคับกับเสาไฟฟ้า กังหันลม โครงสร้างพื้นฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ตั้งอยู่ในที่ดินรัฐ และเสาอากาศที่ส่งสัญญาณน้อยกว่า 4W ผู้ประกอบการมีโอกาสเล็กน้อยในการลดจำนวนเสาอากาศที่ทำตามเงื่อนไขตามที่กฎหมายบังคับ ปัญหาของภาษีนี้คืออะไร ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ลงทุนเป็นพันล้านในคลื่นความถี่ใหม่และต้องปฏิบัติตามพันธะการให้บริการอย่างทั่วถึง นักลงทุนต้องมีระดับความไว้วางใจในการกำกับดูแลที่ไม้ใจได้มีความแน่นอนและชัดเจน ภาษีดังกล่าวก่อให้เกิดภารอย่างมาก ผลกระทบสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ที่กำลังมีลูกค้าเพิ่มขึ้น
การกระทำทางกฎหมายต่อมาตรการดังกล่าว
บทบัญญัติที่เกี่ยวข้องของมาตรา 3 ของข้อกำหนด 90/388/EEC ที่แทนโดยมาตรา 2 วรรค 3 ของข้อกำหนดการสื่อสาร 2002/77/EC วันที่ 16 กันยายน 2002 เรื่องการแข่งขันในตลาดโครงข่ายและบริการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ มาตรา 2 วรรค 3 ระบุว่าประเทศสมาชิกต้องประกันว่าไม่มีการกำหนดข้อจำกัดต่อโครงข่ายและบริการ สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นมาตรการที่คล้ายคลึงกันกับภาษีที่จัดเก็บในกรณี the Belgacom and Mobistar อาจฝ่าฝืนกฎหมายสหภาพยุโรปในปัจจุบัน คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปกำลังพิจารณากระบวนการละเมิดต่อออสเตรียตามมาตรา 226 ของสนธิสัญญา
ผลกระทบการขยายโครงข่ายและพัฒนาการทางเทคโนโลยี
วัตถุประสงค์ของรัฐสภาออสเตรียตอนใต้ในการจำกัดการเติบโตของเสาอากาศในรูปของกฎหมายเกี่ยวกับการขยายโครงข่ายโทรคมนาคมและฝ่าฝืนความสามารถของรัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรียในการจัดการกับปัญหาโทรคมนาคม รัฐบาลกลางออสเตรียตัดสินใจอนุญาตให้แบ่งใช้โครงสร้างพื้นฐานแทนจะบังคับเพื่อหลีกเลี่ยงหากชะลอหรือจำกัดทางเทคโนโลยีหรือเชิงพาณิชย์ในการแก้ไขปัญหา
นอกจากนี้มาตรการที่เป็นภาระและไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ที่กำหนดหลังจากมีการลงทุนจำนวนมหาศาลมีแนวโน้มจะสร้างความไม่มั่นใจในการลงทุนในหสภาพยุโรป แรงจูงใจในการลดจำนวนภาษีอาจนำไปสุ่การลดระดับการครอบคลุมในเขตชนบทเพราะการครอบคลุมจำนวนประชาชนที่มากที่สุดและจำนวนรายได้ต่อเสาอากาศเป็นการบรรลุที่ดีที่สุดในเขตเมือง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีการสื่อสารโทรศัพท์เคลื่อนที่ ขอบเขตของการขยายการครอบคลุมการใช้ช่วงสัญญาณต่ำกว่า ดังนั้น ในระยะยาวภาษีที่เป็นภาระโครงสร้างโทรคมนาคมอาจส่งผลต่อเขตชนบทที่ครอบคลุมโดยเทคโนโลยีความถี่ต่ำกว่าและเผชิญกับปัญหาเลวร้ายของช่องว่างดิจิทัลเพราะภาษีไม่มีความสมดุล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น