ในกฎหมายความรับผิดในสินค้านั้น
การออกแบบที่บกพร่อง (design defect) ถือเป็นปัญหาหรือเงื่อนไขของสินค้าที่ทำให้เกิดความเสียหายหรืออันตรายต่อบุคคลที่ใช้สินค้าดังกล่าว
กล่าวคือข้อบกพร่องที่เกิดจากการออกแบบสินค้าทำให้สินค้ามีอันตรายในตัวเองหรือใช้งานไม่ได้
แม้ว่าการผลิตสินค้าจะสมบูรณ์และใช้วัตถุดิบชั้นดีในการผลิตสินค้าดังกล่าว
ตัวอย่างเช่น เลื่อยไฟฟ้าที่ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันในการใช้งาน
ซึ่งอาจทำให้มือของผู้ใช้ได้รับบาดเจ็บจากคมเลื่อย
ซึ่งกรณีดังกล่าวอาจถือว่าเป็นการออกแบบสินค้าที่บกพร่อง
แม้ว่าตัวสินค้าคือเลื่อยไฟฟ้าดังกล่าวอาจประกอบอย่างไม่มีที่ติและใช้วัตถุดิบที่ดีแล้วก็ตาม
บุคคลที่ใช้งานเลื่อยไฟฟ้าดังกล่าวมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะได้รับบาดเจ็บจากการใช้งานเลื่อยไฟฟ้า
โดยเฉพาะเมื่อใช้งานอย่างรีบเร่งอาจทำให้พลาดหรือเสี่ยงได้รับบาดเจ็บได้
ความแตกต่างระหว่างการออกแบบที่บกพร่อง (design defect) กับสินค้าที่ผลิตบกพร่อง (defected product) คือการผลิตสินค้าที่บกพร่องเป็นความผิดพลาดหรือข้อบกพร่องอันเกิดจากกระบวนการผลิตหรือประกอบสินค้าที่อาจทำให้เกิดความปลอดภัยได้เมื่อได้ผลิตตามแบบของสินค้าที่กำหนดไว้
ในขณะที่การออกแบบที่บกพร่องสาเหตุหลักคือตัวการออกแบบเองทำให้สินค้ามีความไม่ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ข้อบกพร่องทั้งสองประเภทจะได้รับการพิจารณาตามหลักความรับผิดอย่างเคร่งครัด
(strict liability) ซึ่งกำหนดให้ผู้ออกแบบต้องรับผิดชอบสำหรับการออกแบบที่บกพร่องไม่ว่าผู้ออกแบบจะใช้ความระมัดระวังมากแค่ไหนในการผลิตสินค้า
ทั้งนี้
ศาลในระดับมลรัฐของสหรัฐอเมริกามีแนวทางการพิจารณาเรื่องการออกแบบที่นกพร่องแตกต่างกันในแต่ละมลรัฐ
แต่พอจะสรุปได้สองแนวทางดังนี้
(๑)
การออกแบบที่บกพร่องเกิดขึ้น
หากสินค้ามีลักษณะที่อันตรายอย่างไม่สมเหตุสมผลที่เกิดจากการออกแบบ หรือ
(๒)
การออกแบบที่บกพร่องเกิดขึ้น
หากสินค้าไม่ปลอดภัยสำหรับการใช้งานตามวัตถุประสงค์และสามารถคาดการณ์ได้อย่างสมเหตุสมผล
อย่างไรก็ตาม
คดีความรับผิดในสินค้าหลานคดีตัดสินใจลักษณะที่ให้ผลลัพธ์ในทำนองเดียวกันไม่ว่าจะใช้แนวทางใดดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น
ตัวอย่างเช่น สมมุติว่าครอบครัวหนึ่งซื้อรถบรรทุกใหม่
แต่เนื่องจากรถบรรทุกดังกล่าวมีการออกแบบที่ผิดพลาด เบาะที่นั่งด้านหลังของรถบรรทุกเกิดไฟไหม้เมื่อรถบรรทุกวิ่งเกินความเร็ว
๖๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง
กรณีดังกล่าวพอจะถือได้ว่ารถบรรทุกที่มีเบาะที่นั่งติดไฟได้เมื่อรถวิ่งเกินความเร็วในระดับหนึ่งถือเป็นอันตรายที่ไม่สมเหตุสมผล
ศาลจะใช้มาตรฐานดังกล่าวที่มีแนวโน้มว่ารถบรรทุกมีการออกแบบที่บกพร่อง ในทำนองเดียวกัน
คนส่วนใหญ่อาจขับรถยนต์เกินความเร็ว ๖๐
กิโลเมตรต่อชั่วโมงและอาจมีผู้โดยสารนั่งที่เยาะด้านหลัง
จึงถือว่าสามารถคาดการณ์ได้อย่างสมเหตุสมผลว่าอาจมีบางคนได้รับอันตรายหากรถยนต์เกิดไฟไหม้ได้ในเบาะที่นั่งด้านหลังเมื่อรถยนต์วิ่งเกินความเร็ว
๖๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง
หรือหากที่นั่งด้านหลังเกิดไฟไหม้ในขณะที่มีคนนั่งอยู่ในเบาะหลัง
อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคดีของการออกแบบสินค้าบกพร่องจะให้ผลลัพธ์ในทำนองเดียวกันเสมอไป เมื่อใช้การวิเคราะห์ตามสองแนวทางดังกล่าว
ตัวอย่างเช่น รถยนต์อาจเกิดไฟไหม้ด้านหลังเมื่อเกิดการชนท้ายไม่ว่ารถยนต์จะวิ่งด้วยความเร็วเท่าไรก็ตาม
ศาลที่ใช้เกณฑ์อันตรายที่สมเหตุสมผลอาจตัดสินว่ารถยนต์มีวัตถุประสงค์เพื่อการขับขี่และบรรทุกคน
ไม่ได้มีไว้ชน และดังนั้น
รถยนต์จะไม่ถือว่าอันตรายอย่างสมเหตุสมผลสำหรับวัตถุประสงค์หลักของการใช้งาน แต่หากศาลใช้เกณฑ์การใช้งานที่ตามวัตถุประสงค์และสามารถคาดการณ์ได้อย่างสมเหตุสมผล
(intended and reasonably
foreseeable use standard) อาจตัดสินว่ากรณีดังกล่าวเป็นที่สามารถคาดการณ์ได้อย่างสมเหตุสมผลว่าคนขับรถยนต์อาจถูกชนจากด้านหลังในขณะที่รถยนต์ใช้ตามวัตถุประสงค์และดังนั้น
ผู้ออกแบบมีความรับผิดในการไม่นำปัญหาการเกิดไฟไหม้มาพิจารณาเมื่อออกแบบรถยนต์ดังกล่าว
ทั้งนี้ไม่ว่าวิธีการใดที่ศาลใช้จะต้องพิจารณาว่าไม่ใช่สินค้าที่อันตรายทุกประเภทจะเป็นสินค้าที่บกพร่อง
คล้ายกับกรณีของเลื่อยไฟฟ้า บางกรณีจะกำหนดบางอันตรายไม่ว่าจะออกแบบอย่างไร เลื่อยไฟฟ้าเป็นตัวอย่างหนึ่งของสิน้าที่มีความอันตรายในตัวเอง
ซึ่งเพื่อใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์เพราะหากเลื่อยไฟฟ้าที่มีใบเลื่อยที่ทำจากยางก็อาจจะไม่สามารถตัดวัตถุที่แข็งได้
ซึ่งอาจไม่มีประโยชน์ในการตัดไม้ ดังนั้น
ศาลมักพิจารณาว่ามีการออกแบบที่ปลอดภัยกว่าเป็นทางเลือกหนึ่งหรือไม่ซึ่งทางเลือกดังกล่าวต้องไม่ทำให้วัตถุประสงค์ของการใช้งานของสินค้าเสียไป
นอกจากนี้ ศาลอาจพิจารณาว่ามีการเตือนเรื่องการใช้งานสินค้าไว้หรือไม่
และหากมีการเตือน
ข้อความที่เตือนมีการอธิบายวิธีการใช้งานสินค้าไว้ชัดเจนดีหรือไม่ บางศาลอาจพิจารณาต่อไปว่ามีการรับประกันที่ครอบคลุมสมรรถนะของสินค้าไว้หรือไม่
สำหรับกฎหมายความรับผิดในสินค้าของไทยยังไม่มีการวางหลักการที่ชัดเจน
จึงต้องดูต่อไปว่าจะยึดถือเกณฑ์แบบใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น